
กิจกรรมเพื่อสังคม
กิจกรรมเพื่อสังคม
ในฐานะที่บริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด เป็นผู้ผลิตยา “ผงพิเศษตราร่มชูชีพ” ซึ่งได้รับการตอบรับ และสนับสนุนจากทุกท่านด้วยดีตลอดมา บริษัทฯ ตระหนักดีว่าสุขอนามัยและการศึกษาทีดีเป็นรากฐาน สำคัญที่จะทำให้คน และสังคมเจริญพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อเป็นการตอบแทนกลับสู่สังคม บริษัทฯ จึงได้ให้การส่งเสริม สนับสนุนและช่วยเหลือสังคมในด้านสุขอนามัยและการศึกษา ทั้งทางตรง และทางอ้อม และหวังว่าบริษัทฯ จะเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ทุกคนได้มีสุขอนามัยและ การศึกษาที่สมบูรณ์มากขึ้น
ทำดีกับผงพิเศษที่โรงเรียนประชาบำรุง
สวัสดีค่ะ…ข้าวสวยนะคะ….(>‿◠)✌ วันนี้ข้าวสวย มาร่วมโครงการทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพค่ะ และตอนนี้ข้าวสวยก็อยู่ที่โรงเรียนประชาบำรุง ซึ่งในวันนี้จะมีพิธีมอบทุนการศึกษา กองทุนนายคำ-นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ประจำปี 2567 ที่โรงเรียนประชาบำรุงค่ะ ツ

สำหรับโรงเรียนประชาบำรุงนี้นะคะ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 189 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานครค่ะ เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2481 เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ค่ะ

ผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน ก็คือ ท่านผู้อำนวยการ นงนภัส อยู่เลิศ ค่ะ และตอนนี้ ข้าวสวย ก็อยู่กับท่านผู้อำนวยการโรงเรียนนะคะ ท่านผู้อำนวยการคะ อยากจะให้ท่านช่วยกรุณาแนะนำโรงเรียนให้ด้วยค่ะ ツ

โรงเรียนของเรามีจุดเด่นก็คือเรื่องของกีฬา เป็นพวกวอลเล่ย์บอล และฟุตซอล ทางโรงเรียนของเราสนับสนุนให้เล่นกีฬาเกือบทุกประเภทค่ะ และในด้านของการเกษตร เพราะเรามีแปลงเกษตรผักปลอดสารพิษ และในเรื่องของครู เรามีการผลิตสื่อ สื่อของเราได้รับรางวัลหลากหลาย

โรงเรียนของเราร่มรื่น อยู่ริมคลองภาษีเจริญเลียบฝั่งเหนือ บรรยากาศหน้าอยู่ ยังไงแล้วฝากท่านผู้ปกครองนะคะ ส่งลูกหลานของท่านเข้าเรียนที่นี่ได้เลยค่ะ ครูของเรามีความรู้ความสามารถมาก อบรมอยู่บ่อยๆ ครูส่วนใหญ่จบปริญญาตรีขึ้น ปริญญาโทก็มีหลายคน หลากหลายความสามารถ สอนบุตรหลานของท่านได้อย่างดี ในเรื่องของมารยาท ในเรื่องของความรู้ต่างๆ ยังไงฝากโรงเรียนไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ (ɔ◔︣‿◔︣)ɔ ❤

ผู้ที่มีอุปการคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรงเรียน ท่านเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ด้วย คือท่าน พล.ต.อ.บุญศรี หุ่นสวัสดิ์ ปีนี้นะคะ ปี 2567 ท่านมามอบทุนกับกับนักเรียน 734,000 บาท ซึ่งไม่ได้ให้ปีนี้ ปีเดียวนะคะ ท่านให้ต่อเนื่องมาทุกปี และแต่ละปีก็จะเพิ่มมากขึ้นๆ ด้วยอานิสงส์ความใจดีของท่าน ที่ได้ช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยากจน มารยาทดีและเรียนเก่ง ให้ได้มีโอกาสสืบทอดการศึกษาต่อไป และให้เด็กกตัญญู รู้บุญคุณคนด้วย ซึ่งอันนี้สำคัญมากค่ะ ก็อยากจะขอบคุณท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

สำหรับความเป็นมาของ กองทุนนายคำ-นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ นี้นะคะ… ก็คือท่าน พล.ต.อ.บุญศรี หุ่นสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหาร บริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด ท่านเป็นคนหนองแขม และสมัยเด็ก ท่านเคยเรียนที่โรงเรียนประชาบำรุงค่ะ ท่านจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือและ สนับสนุนโรงเรียนเก่าของท่าน เท่าที่จะทำได้ และเมื่อมารดาของท่าน คือ นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ถึงแก่กรรม เมื่อปี พ.ศ. 2538 ท่านจึงรวบรวมเงินที่พี่น้อง อีกทั้งญาติสนิท มิตรสหายของท่าน ที่ร่วม ช่วยกันทำบุญในงานคุณแม่ของท่าน ตั้งเป็นกองทุนนายคำ-นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ซึ่งเป็นชื่อบิดา และมารดาของท่าน แล้วนำดอกผลจากกองทุน มาบริจาคเป็นทุนการศึกษา ให้แก่นักเรียนของโรงเรียนประชาบำรุงนี้ค่ะ โดยกองทุนนายคำ – นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ได้มอบทุนการศึกษา ให้กับ นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี ของโรงเรียนประชาบำรุง ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ในปี 2567 นี้ ก็เป็นปีที่ 29 แล้วนะคะ

และในวันนี้ วันที่ 13 มิถุนายน 2567 พล.ต.อ.บุญศรี หุ่นสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหาร บริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด ก็ได้มามอบทุนการศึกษา กองทุนนายคำ – นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ประจำปี 2567 ค่ะ

ตอนนี้ข้าวสวย ก็อยู่กับนักเรียนทุน กองทุนนายคำ – นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ นะคะ…. สวัสดีค่ะ พวกหนูเป็นผู้แทนของนักเรียนทุน กองทุนนายคำ – นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ ที่ได้รับทุนในปีนี้นะคะ พวกหนูขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีมากๆ ที่ให้ทุนพวกหนูในวันนี้ พวกหนูก็จะนำไปต่อยอดให้ได้เรียนสูงๆ ยิ่งขึ้นค่ะ ข้าวสวย ก็ขอแสดงความยินดี และขอให้น้องๆ สมหวังตามที่ได้ตั้งใจไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ʕ•́ᴥ•̀ʔっ

เอาละค่ะ ตอนนี้ข้าวสวย ได้ร่วมโครงการทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ พิธีมอบทุนการศึกษา กองทุนนายคำ – นางอุ่น หุ่นสวัสดิ์ เรียบร้อยแล้วนะคะ ได้ทำดี… ได้บุญมาเยอะเลยล่ะค่ะ… เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งนะคะ ที่ช่วยให้นักเรียนที่เรียนเก่ง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนเล่าเรียนของโรงเรียนประชาบำรุง ได้มีโอกาสเล่าเรียน และศึกษาถึงในระดับสูงขึ้นไปค่ะ ครั้งหน้าจะมีกิจกรรมอะไรดีๆ จากผงพิเศษตราร่มชูชีพอีก ต้องคอยติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดี ค่ะ บ๊ายบายค่ะ ツ

Hope you like this activity as I do!!
Love ❤
ข้าวสวย \(^◡^ )
ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง ปี 2538
เมื่อปี 2537 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานกรรมการบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยา ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ดร.สมเกียรติฯ และได้แวะมาทำบุญ สนทนาธรรม กับหลวงพ่อตาคำ ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดสถานีรถไฟห้างฉัตรในขณะนั้น เมื่อคุณสมเกียรติฯ ได้ทราบว่าศาลาวัด สถานีรถไฟห้างฉัตร เก่า และคับแคบ ไม่เพียงพอจัดงานงานบุญในวันสำคัญทางศาสนา ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ฯ จึงเกิดจิตศรัทธา บริจาคทรัพย์จำนวนหนึ่งเพื่อจัดสร้างศาลาใหม่ และได้ถวายพระประธาน อีกทั้งยังทำป้ายชื่อวัดให้ใหม่ โดยได้มีพิธีทำบุญศาลาใหม่ และเปิดป้ายวัด ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2538 ครับ ㋡
และนี่เลย… ป้ายชื่อวัดใหม่ครับ สวยงามมากๆ





อันนี้ผ้าแพรเปิดป้าย ลอยไปซะสูงเลยเชียว ลอยไปให้ไกลๆ เลย ヅ

และนี่เป็นศาลาหลังใหม่ครับ ดูแข็งแรง และกว้างขวางมากๆ เลยครับ

พระประธานที่ ดร.สมเกียรติ และคุณสมจิตต์ บริจาคครับ

พระโมคลา และพระสาลี ที่ตัังฝั่งซ้ายและขวา ของพระประธานครับ

และเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมาบุตรหลานของ ดร.สมเกียรติ และคุณสมจิตต์ ก็ได้ไปปรับปรุงศาลา และป้ายชื่อวัดสถานีรถไฟห้างฉัตรที่เก่าทรุดโทรม ให้ดูใหม่ และกว้างขวางขึ้นตามคลิปนี้ เลยครับ
PSPD !(•̀ᴗ•́)و ̑̑
ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง EP.3
มาลำปางคราวนี้ นอกจากมายได้ร่วมทำบุญศาลาและป้ายชื่อใหม่ของวัดสถานีรถไฟห้างฉัตร ได้เรียนรู้ความเป็นมาของชามตราไก่ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี มายยังได้ไปเที่ยวที่ลำปางอีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ ไปไหนบ้าง เพื่อนๆ ตามไปเที่ยวกับมายเลยนะคะ ღ
มาเที่ยวที่ลำปาง กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลย ก็คือนั่งรถม้าชมรอบรอบเมืองลำปางค่ะ รถม้าถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของจังหวัดนี้ ที่ผู้คนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นเพียงจังหวัดเดียวในเมืองไทยที่ยังคงใช้รถม้าเป็นพาหนะในการเดินทางค่ะ

ลักษณะของรถม้าลำปาง จะเป็นรถแบบเปิดประทุน ที่นั่งผู้โดยสารคล้ายคลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อ แต่มีขนาดใหญ่กว่า อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับ ซึ่งมีระดับสูงกว่าเล็กน้อย นั่งได้คันละไม่เกิน 4 คนค่ะ รถม้าคันแรกของจังหวัดลำปางเป็นของเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง หลังจากนั้นรถม้าจึงเริ่มมีแพร่หลายทั้งในลำปางและตามเมืองหลักต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญของเทคโนโลยีการคมนาคมทำให้รถม้าค่อยๆเลือนหายไป เหลือแต่เพียงที่จังหวัดลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าเป็นยานพาหนะอยู่ตราบจนปัจจุบันค่ะ นี่มายก็จะนั่งรถม้าไปบ้านเสานักนะคะ ㋡

บ้านเสานัก บ้านไม่สักโบราณ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นศิลปะแบบพม่าผสมล้านนา อายุร้อยกว่าปี มีเสาถึง 116 ต้น ทำให้บ้านตั้งอยู่อย่างคงทนมาถึงปัจจุบันค่ะ ด้วยความที่ในอดีตลำปางเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้าไม้โดยเฉพาะไม้สัก จึงทำให้ในลำปางเต็มไปด้วยบ้านโบราณที่สร้างด้วยไม้สักอย่างสวยงาม และยังคงไว้ให้เห็นถึงปัจจุบันค่ะ ตามประวัติบ้านเสานักหลังนี้ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2438 โดย หม่องจันโอง ชาวพม่า ลักษณะการก่อสร้างเป็นแบบศิลปะพม่าผสมล้านนาค่ะ ปัจจุบันบ้านเสานักเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดลำปาง ไปชมภายในบ้านกันเลยนะคะ

ซึ่งภายในบ้านจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ เช่น แหย่งช้างของเจ้าหลวงลำปาง หีบโบราณ เครื่องอัดกลีบผ้าม่วง กำปั่นเหล็ก เครื่องเขิน เครื่องเงิน ที่ผนังติดภาพเจ้าดารารัศมี และภาพของเจ้าของบ้านรุ่นแรก และภายนอกบริเวณใกล้เคียงกับตัวบ้านยังมีถุข้าว (ยุ้งข้าว)เสาหลาย ที่มีเสาถึง 24 ต้น และต้นสารภีที่มีอายุกว่า 130 ปี หากว่าใครได้มาแอ่วเมืองลำปาง หาโอกาสแวะมาชมความงามของบ้านเรือนไม้สักโบราณหลังนี้กันดูค่ะ ㋡

แวะทานกาแฟซักหน่อย ต้องที่ร้านนี้เลยค่ะ โก๋กาแฟ อยู่ริมถนนฉัตรไชย บรรยากาศสบายๆ ร่มรื่นมากๆ ร้านนี้ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพที่คั่วเเองจากโรงคั่วกาแฟปรีดา

ที่ร้านมีหลายมุมแล้วแต่ชอบ มีขนมเค้กในตู้หลายเมนู มีไอติมทอด รวมถึงฮันนี่โทส กาแฟอร่อย หอม ราคาไม่แพงค่ะ ٩(͡๏̯͡๏)۶

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต เป็นเวลานานถึง 575 ปี ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ องค์พระบรมธาตุดอนเต้า พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่มีอายุเก่าแก่พอ ๆ กับวัดนี้ นอกจากนี้ยังมี วิหารหลวง ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าทองทิพย์ สร้างโดยพระนางจามเทวี อายุกว่า 1,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์ ศิลปะสมัยเชียงแสน มณฑปหรือพญาธาตุ ศิลปะแบบพม่า วิหารลายคำสุชาดาราม ฝีมือช่างเชียงแสน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง โดยมีลวดลายทองประดับตามส่วนต่าง ๆ งดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสน และยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา อันเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาด้วยค่ะ

เที่ยงล่ะ หาทานข้าวซักหน่อย อาหารเหนือต้องร้านนี่เลยค่ะ ครัวมุกดา อยู่ที่ท่าคราวน้อย ใกล้สนามบิน

ร้านนี้ สะอาด รวดเร็ว บริการดี อาหารรสเลิศคือบุฟเฟต์ขนมจีน ประกอบด้วยน้ำต่างๆ เช่น น้ำเงี้ยว น้ำยา น้ำยาป่า ทานกับไข่ต้มอร่อยมากๆ นอกจากนี้ อย่าได้พลาดหมูสะเต๊ะ และไก่ย่างรสเลิศเลยนะคะ

วัดปงสนุก วัดเก่าแก่ที่สำคัญของลำปางอีกวัดหนึ่งนะคะ ตัววัดเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า วัดนี้มีวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้ด้วยค่ะ ㋡

โดยวิหารพระเจ้าพันองค์ที่ได้รับรางวัลหลังนี้สร้างด้วยไม้ เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของประเทศ ตัวอาคารแสดงถึงการรวบรวมทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม

โครงสร้างของวิหารมีลักษณะเป็นมณฑปเปิดโล่งตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์ พระพักตร์แต่ละองค์ก็หันออกไปยังทิศทั้งสี่ ในส่วนของหลังคามีลักษณะซ้อนกันสามชั้นซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมไปถึงเสาสี่เหลี่ยมที่ค้ำตัววิหารก็มีลวดลายอันน่าวิจิตรปรากฏให้เห็นอยู่แทบทุกต้น และบริเวณด้านบนรอบในของตัววิหารนั้นได้รับการประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวนมากถึง 1,080 องค์ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพันองค์ ที่ใช้เรียกกันอย่างติดปากค่ะ

สะพานรัษฎาภิเศก หรืออีกชื่อหนึ่งว่า สะพานขาว เดิมเป็นสะพานโครงสร้างไม้ สร้างขึ้นเมื่อปี 2437 ต่อมาได้ก่อสร้างใหม่เมื่อปี 2460 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กค่ะ สะพานรัษฎาภิเษก หรือ สะพานขาว ตั้งอยู่ที่ถนนรัษฎา เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัง เดิมเป็นสะพานโครงสร้างไม้ ที่ทางเจ้าผู้ครองนครลำปาง และชาวจังหวัดลำปางได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระที่พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ในโอกาสที่พระองค์ครองราชย์ครบ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2437

ในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ได้ทาสีพรางตาและด้วยการอ้างว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ จึงรอดจากโจมตีทิ้งระเบิดมาได้ หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างใหม่ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณสะพานมีเครื่องหมายไก่ขาว และครุฑหลวงประดับไว้ตรงหัวสะพานค่ะ

เที่ยวมาทั้งวันล่ะ หน้ามัน สิวขึ้นเลย เดี๋ยวมายด์ ขอแวะไปซื้อผงพิเศษก่อนนะคะ ღ

ผงพิเศษหาซื้อง่ายค่ะ มีขายตามร้านขายยาทั่วไป ตอนนี้มายด์อยู่ที่ร้านขายยาเบสท์ ถนนอัศวินค่ะ พี่ค่ะ ขอซื้อผงพิเศษ 2 ซอง จะไปแต้มสิวค่ะ ღ

เฮ้…ได้ผงพิเศษมาแล้ว เห็นไม๊ล่ะค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็หน้าใส ไร้สิวอย่างง่ายๆค่ะ ซองละ 10 บาทเอง ไม่แพงด้วย แค่ 10 บาท หน้าก็ใสแล้ว ♥

หอนาฬิกาลำปาง แลนด์มารค์ที่สำคัญอีกอันของลำปางนะคะ สร้างมาตั้งแต่ปี 2497 ค่ะ

สถานีรถไฟลำปาง เปิดใช้เมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งในตอนนั้นสถานีรถไฟนครลำปางถือเป็นจุดสิ้นสุดของรถไฟสายเหนือ ตัวอาคารมี 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ฉลุลายสวยงาม ได้รับเลือกเป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม เมื่อปี 2526 ค่ะ

อาคารสถานีรถไฟลำปางมีรูปทรงที่แปลกกว่าที่อื่นค่ะ คือเป็นทรงยุโรป มีเสารูปโค้ง มีลายไม้ฉลุตามระเบียงและเหนือวงกบประตูหน้าต่าง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานของภาคเหนือและยุโรป อาคารเป็นลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ ชั้นล่างเป็นตึกที่ดูแข็งแรงมั่นคงส่วนชั้นบนเป็นไม้ สถานีรถไฟนครลำปางสร้างเมื่อปี 2458 ในรัชกาลที่ 6) และในปี 2459 ก็เปิดใช้งานค่ะ ในปี 2536 อาคารเก่าแก่หลังนี้ ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแห่งสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ ประจำปี 2536 ด้วยค่ะ

สำหรับลำปางนะคะ ก็มีที่เที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากมาย คราวหน้าถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวอีกครั้ง มายต้องไม่พลาดที่กาดกองต้า ตลาดโบราณอายุร้อยกว่าปี ซึ่งตัวตลาดเป็นอาคารเก่าแก่ผสมผสานระหว่างยุโรป จีน พม่าล้านนา และไทยภาคกลางค่ะ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมสินค้า อาหาร และของที่ระลึกน่าช้อปหลากหลายชนิดด้วยค่ะ เอาล่ะค่ะ มาลำปางคราวนี้มายได้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับผงพิเศษตราร่มชูชีพมากมายเลยล่ะค่ะ อิ่มอกอิ่มใจ ได้ทำบุญ และได้เที่ยวด้วย สนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ แล้วครั้งหน้าจะมีกิจกรรมอะไรดีๆ จากผงพิเศษตราร่มชูชีพอีก ต้องคอยติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดี ค่ะ บ๊ายบายค่ะ ♥

With ⓁⓄⓋⒺ
Mine Thanaporn Rattanasasiwimon ⋆˙⟡♡
ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง EP.2
ได้ทำดี ได้บุญมาเยอะเลยล่ะค่ะ “ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง” ก็เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งนะคะ ที่ช่วยให้ทางวัดและคนในหมู่บ้าน ได้มีสถานที่ทำบุญ และสามารถจัดงานบุญที่วัดได้สะดวกขึ้นค่ะ ไหนๆ ก็มาเที่ยวแถวนี้ละ ก่อนกลับมายจะแวะเที่ยวที่ลำปาง ยังไงเพื่อนๆ ไปเที่ยวพร้อมๆ กันกับมายเลยนะคะ ㋡
ที่แรกที่มายจะไปนะคะ นี่เลย พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ชามกาไก่ หรือ ชามตราไก่ ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลำปางมาช้านานเลยค่ะ และถ้าจะมาดูมาช้อป ชามตราไก่ของแท้ ต้องมาที่นี่เลยค่ะ

ซึ่งที่นี่จะรวบรวมเรื่องราวต้นกำเนิดชามตราไก่ในจังหวัดลำปาง นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ “มีชีวิต” ค่ะ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของชามตราไก่แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังเป็นโรงงานผลิตถ้วยชาม ทำให้เราได้เห็นถึงขั้นตอนการผลิตชามตราไก่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายในโรงงานอีกด้วยค่ะ ٩(●̮̮̃•̃)۶

สำหรับพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีนี้นะคะ เพิ่งเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้เมื่อปี 2555 ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาเกียรติประวัติของนายอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน หรือ อาปาอี้ ผู้ก่อตั้งโรงงานเซรามิคแห่งแรกของจังหวัดลำปาง และเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับชามตราไก่ รวมถึงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางด้วยเช่นกันค่ะ ღ

แน่นอนว่าชามตราไก่ ได้ชื่อมาจากลวดลายที่วาดบนถ้วยชามเป็นรูปไก่ตัวโต มีหงอนและขนหางสวยงาม วาดด้วยมือโดยใช้พู่กันและสีเคลือบ โดยที่โรงงานธนบดีก็ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของชามไก่ไว้ให้เหมือนต้นฉบับชามไก่โบราณ โดยวาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม หางและขาสีดำ เดินอยู่บนหญ้าสีเขียว มีดอกเบญจมาศสีชมพูอมม่วง ใบสีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านซ้าย มีต้นกล้วย 1 ต้น สีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านขวา บางใบจะมีค้างคาวห้อยหัวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไก่ มีดอกไม้ใบไม้เล็กๆ แต้มก้นชามด้านในเป็นรูปดอกจิกด้วยค่ะ

ได้รู้เรื่องราวของชามตราไก่กันไปแล้ว คราวนี้มาดูของพิเศษในพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีกันบ้างนะคะ ที่นี่มีชามไก่ที่เล็กที่สุดในโลก โดยเล็กกว่าเมล็ดข้าวเปลือกเสียอีก ชามไก่นี้เก็บรักษาไว้ในตู้กระจกทรงสามเหลี่ยม หากอยากเห็นชัดๆ ต้องมองผ่านกระจกขยายจึงจะเห็นลวดลายของตัวไก่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีชามไก่ทองคำ ที่ทำด้วยทองคำแท้ 100% ด้วยค่ะ ด้านในชามเป็นทองคำเงางาม ส่วนด้านนอกใช้น้ำทองวาดเป็นไก่ทองคำบนพื้นสีขาว กลายเป็นชามตราไก่งดงามเลอค่า มีให้ชมที่นี่ที่เดียวค่ะ

ระหว่างเดินชมพิพิธภัณฑ์ เราจะได้เห็นพนักงานในโรงงานกำลังนั่งทำงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยวิธีแบบโบราณไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่การนำดินที่นวดแล้วมาวางในพิมพ์ แล้วใช้มือหมุนแป้นวงล้อเพื่อขึ้นรูป ตกแต่งและตัดขอบชามส่วนเกิน และอีกหลายขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นชามหนึ่งใบพร้อมเข้าเตาเผา อีกทั้งยังมีการสาธิตการปั้นชามไก่แบบปัจจุบันที่ใช้เครื่องจักรมาช่วยทุ่นแรง นอกจากนั้นก็ยังจะได้ชมการวาดลวดลายไก่แต่ละตัวลงบนถ้วยชามอีกด้วยค่ะ

และที่สำคัญ ยังจะได้ชม “เตามังกร” เตาเผาถ้วยชามเซรามิคแบบโบราณที่อาปาอี้สร้างขึ้นเองตั้งแต่ปี 2508 โดยใช้ประสบการณ์และความรู้ในการสร้างเตาเผาและการทำเซรามิคมาจากประเทศจีน เตาโบราณนี้มีอยู่ 2 เตาด้วยกัน ทำขึ้นจากดินจอมปลวก เผาชามไก่ได้ถึง 5,000-8,000 ใบต่อเตาเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้วล่ะค่ะ และกำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นเตาเผาโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดลำปาง

ที่ “พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี” นี้ นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับชามตราไก่ และถ้วยชามเซรามิคของลำปางได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนลำปาง ขอแนะนำว่าต้องห้ามพลาดมาลองชมกันค่ะ ღ

Big Hugs 【ツ】
:¨·.·¨:
`·.. MiNe
ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง EP.1
สวัสดีค่ะ มายด์ ธนภรณ์ รัตนศศิวิมล นะคะ วันนี้มายด์มาร่วมกิจกรรมทำดีกับผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ที่จังหวัดลำปางค่ะ และตอนนี้ มายด์ ก็อยู่ที่ วัดสถานีรถไฟห้างฉัตร จังหวัดลำปางค่ะ (>‿◠)✌

ซึ่งในวันนี้จะมีจะมีพิธีทำบุญศาลาใหม่ และเปิดป้ายชื่อวัด ของวัดสถานีรถไฟห้างฉัตร ที่ทางผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ บูรณะปรับปรุงให้ค่ะ

วัดสถานีรถไฟห้างฉัตร นี้นะคะ ตั้งอยู่ที่ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง มีเนื้อที่ 13 ไร่ เป็นวัดมหานิกาย ปัจจุบันมี พระอธิการมงคลมังคโล เป็นเจ้าอาวาส มีภิกษุจำวัด 2 รูป และสามเณร 6 รูป ค่ะ

สำหรับความเป็นมาของวัดสถานีรถไฟห้างฉัตรนะคะ เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาในปี 2460 ได้รับอนุญาตก่อตั้งเป็นวัดค่ะ และเมื่อปี 2537 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานกรรมการบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยา ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ดร.สมเกียรติฯ และได้แวะมาทำบุญ สนทนาธรรม กับหลวงพ่อตาคำ ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดสถานีรถไฟห้างฉัตรในขณะนั้น เมื่อคุณสมเกียรติฯ ได้ทราบว่าศาลาวัด สถานีรถไฟห้างฉัตร เก่า คับแคบ ไม่เพียงพอจัดงานงานบุญในวันสำคัญทางศาสนา ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ฯ จึงเกิดจิตศรัทธา บริจาคทรัพย์จำนวนหนึ่งเพื่อจัดสร้างศาลาใหม่ และได้ถวายพระประธาน อีกทั้งยังทำป้ายชื่อวัดให้ใหม่ โดยได้มีพิธีทำบุญศาลาใหม่ และเปิดป้ายวัด ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2538 ค่ะ ツ

ซึ่งเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา บุตรหลาน ของ ดร.สมเกียรติฯ ได้มาทำบุญที่วัดสถานีรถไฟห้างฉัตร และพบว่า ศาลาวัดเดิมที่ ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ฯ บริจาคทรัพย์สร้างไว้ ทรุดโทรม เก่าไปตามกาลเวลา อีกทั้งวัด ได้ก่อสร้างรั้วใหม่ บดบังป้ายชื่อวัดเดิมที่ ทาง ดร. สมเกียรติฯ ได้สร้างไว้ บุตรและหลานของ ดร. สมเกียรติฯ จึงได้บริจาคทรัพย์จำนวนหนึ่งเพื่อบูรณะศาลาวัด และจัดทำป้ายชื่อวัดใหม่ ซึ่งมีพิธีทำบุญศาลาวัด และเปิดป้ายวัดใหม่ ในวันนี้ค่ะ ❤(ˆ‿ˆԅ)

เอาละค่ะตอนนี้มายด์ ได้ร่วมโครงการทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ ทำบุญศาลาใหม่ และเปิดป้าย วัดสถานีรถไฟห้างฉัตร เรียบร้อยแล้วนะคะ ได้ทำดี ได้บุญมาเยอะเลยล่ะค่ะ เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งเลยนะคะ ของผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ที่ช่วยให้ทางวัดและคนในหมู่บ้าน ได้มีสถานที่ทำบุญ และสามารถจัดงานบุญที่วัดได้สะดวกขึ้นค่ะ
ไหนๆ ก็มาลำปางล่ะ เดี๋ยวก่อนกลับ มายด์จะแวะเที่ยวที่ลำปางก่อน ยังไงเพื่อนๆ ไปเที่ยวพร้อมๆ กันกับมายด์ได้เลยนะคะ (ɔ◔︣‿◔︣)ɔ ❤
Hope you like this activity as I do!!
Love ❤
Haremmine ( ◡́.◡̀)\(^◡^ )
ทำดีกับผงพิเศษที่เชียงคำวิทยาคม ปี 2536
เมื่อปี พ.ศ. 2534 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด มีความประสงค์ที่จะสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อ.เชียงคำ จ.พะเยา

จึงได้ก่อตั้ง มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยา ขึ้น ซึ่งมูลนิธิฯ นี้ ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิ และมีฐานะเป็นนิติบุคคล ตามเลขทะเบียนลำดับที่ 5047 เมื่อปี พ.ศ. 2534 และมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อ.เชียงคำ จ.พะเยาครับ


และในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2536 ดร.สมเกียรติฯ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้เดินทางมายังโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เพื่อทำการเปิดป้าย มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพฯ พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ที่เรียนเก่ง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นปีแรกครับ

สำหรับวัตุถุประสงค์ของ มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม นี้ ก็เพื่อช่วยทุนการศึกษาแก่นักเรียนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ที่เรียนเก่ง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และช่วยทุนการจัดหาอุปกรณ์การเรียนให้แก่นักเรียน และอุปกรณ์การสอนให้แก่โรงเรียนเชียงคำวิทยาคมค่ะ ซึ่งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ก็ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาเป็นประจำทุกปี ต่อเนื่องจนถงปัจจุบันครับ ㋡

โดยในปี 2557 ทางผงพิเศษก็ได้ถ่ายทำคลิปมอบทุนการศึกษา มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
PSPD !(•̀ᴗ•́)و ̑̑
ทำดีกับผงพิเศษที่เชียงคำวิทยาคม EP.2
หลังจากที่เอมมี่ได้ร่วมโครงการทำดีกับ ผงพิเศษตราร่มชูชีพ พิธีมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ก่อนกลับเอมี่จะแวะเที่ยวที่พะเยาและเชียงรายยังไงเพื่อนๆ ไปเที่ยวพร้อมๆ กันกับเอมี่เลยค่ะ.. ที่แรกที่เอมมี่พาไป นี่เลยค่ะ วัดนันตาราม ตั้งอยู่บริเวณตลาดเทศบาลตำบลเชียงคำ มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวา เดิมชื่อว่า “วัดจองคา” หรือ “วัดจองเหนือ” วัดนันตารามเป็นวัดประจำชุมชนชาวไทยใหญ่ สร้างขึ้นโดยพุทธศาสนิกชนชาวไทยใหญ่ค่ะ

ภายในวิหารไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยไม้สัก อันเชิญมาจากวัดร้างชื่อ “เหม่ถ่า” ซึ่งเป็นวัดร้างในชุมชนไทยใหญ่เดิม ที่อำเภอปง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทองทั้งต้น ลงรักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 51 นิ้ว สูงจากฐานถึงยอดเกศา 9 ศอก สวยงามมากค่ะ ㋛

นอกจากพระประธานแล้ว ยังมีพระพุทธอัครสาวก คือพระสารีบุตรประกอบเบื้องขวา และพระโมคคัลลานะประกอบเบื้องซ้ายของพระพุทธรูป สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบในการอนุรักษ์วัตถุโบราณเก่าแก่ ก็ต้องเดินเข้ามาบริเวณด้านหลังองค์พระประธาน เพราะมีพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาวัตถุโบราณ ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์อู่เต็งมง” ซึ่งภายในเก็บรักษาพระเครื่องพิมพ์เก่าแก่นับร้อยองค์ คัมภีร์พระไตรปิฎก เงินตราสกุลต่าง ๆ ในสมัยโบราณ และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ

ตอนนี้เอมี่ก็อยู่ที่ วัดร่องขุน ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงรายค่ะ วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่มีความสวยงามโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ ด้วยฝีมือการออกแบบ และก่อสร้างของ อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง เพื่อเป็นวัดประจำบ้านเกิด สร้างโดยจินตนาการของอาจารย์ จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงามน่าแวะชมมากแห่งหนึ่งเลยนะคะ

อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีแรงบันดาลใจในการสร้างวัดแห่งนี้อยู่ 3 ประการนะคะ คือ เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ความงดงามของวัดแห่งนี้อยู่ที่ “โบสถ์” เพราะอาจารย์ต้องการ จะเนรมิตวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้

สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ บนสันของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรกลืนกัน 16 ตน ข้างละ 8 ตน หมายถึง อุปกิเลส 16 จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพานหมายถึง เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดา

ด้านล่างเป็นสระน้ำหมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่พรหม 16 ชั้น ผ่านแล้วจึ้งขึ้นไปสู่อรูปพรหม 4 แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 4 ดอกและบานประตู 4 บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้น แล้วจึงก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิส่วนบนของหลังคาโบสถ์ ได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่างคือความหลุดพ้นนั่นเองค่ะ ツ

ยาหม่องตราร่มชูชีพ หอมชื่นใจจริงๆ เลยนะคะ ღ

นอกจากจะชมความงดงามของพระอุโบสถแล้ว ยังสามารถเข้าชมผลงานของอาจารย์ และเลือกซื้อของที่ระลึกจากวัดร่องขุ่นได้อีกด้วยค่ะ ❀

เอมมี่เดินมาทั้งวันละ หน้ามัน สิวขึ้นเยอะเลย เดี๋ยวเอมมี่ขอไปซื้อ ผงพิเศษ ก่อนนะคะ ผงพิเศษ หาซื้อง่ายค่ะ มีขายตามร้านขายยาทั่วไป คราวนี้ เอมี่มาที่ร้านนี้ค่ะ นี่ค่ะ ร้านสงวนไทยเภสัช อยู่ถนนสนามบินนี่เองค่ะ

คุณป้าคะ ขอซื้อ ผงพิเศษ 2 ซองค่ะ ✾

เฮ้ ได้ ผงพิเศษ มาแล้ว เห็นไม๊ล่ะค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็หน้าใส ไร้สิวอย่างง่ายๆ ค่ะ ซองละ 10 บาทเอง ไม่แพงด้วย แค่ 10 บาท สิวก็ยุบแล้ว!!!!

ตอนนี้เอมี่อยู่ที่สีแยกหอนาฬิกานะคะ และนี่ หอนาฬิกา จ.เชียงราย ค่ะ หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างสรรค์และออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่สร้างวัดร่องขุ่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยได้ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และแล้วเสร็จช่วงงานวันแม่แห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2551 ค่ะ

ที่หอนาฬิกานี้ มีระบบแสง สี เสียง อลังการมากเลยนะคะ ทุกคืนเวลา 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่ม จะมีการแสดงแสงสีเสียงที่หอนาฬิกาประกอบเพลงเชียงรายรำลึก ดังก้องถนนจนจะกลายเป็นที่ท่องเที่ยวไปแล้วล่ะค่ะ

เอาล่ะค่ะ วันนี้เอมี่ก็ได้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับ ผงพิเศษตราร่มชูชีพ มากมายเลยล่ะค่ะ อิ่มอกอิ่มใจ ได้ทำบุญ และได้เที่ยวด้วย สนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ แล้วครั้งหน้าจะมีกิจกรรมอะไรดีๆ จาก ผงพิเศษตราร่มชูชีพ อีก ต้องคอยติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดี ค่ะ บ๊ายบายค่ะ ♥
With ⓁⓄⓋⒺ
:¨·.·¨:
`·.. Emmy Sununta ♥
ทำดีกับผงพิเศษที่เชียงคำวิทยาคม EP.1
สวัสดีค่ะ เอมี่ สุนันทา เดวา นะคะ วันนี้… เอมี่จะไปร่วมโครงการทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ พิธีมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ที่ โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ค่ะ

สำหรับโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมนี้นะคะ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 4 หมู่ 8 ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยาค่ะ เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 จังหวัดพะเยา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2503 มีพื้นที่ทั้งหมด 60 ไร่ 2 งาน เปิดทำการสอนแบบสหศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 มีนักเรียนทั้งหมด 2,740 คน

ปัจจุบัน ท่านอาจารย์ ดร.ธวัช ชุมชอบ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนค่ะ

สำหรับความเป็นมาของ มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม นี้นะคะ ก็คือ ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนเก่ง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ของโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ให้มีโอกาสได้เล่าเรียน จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2534 และได้ทำพิธีเปิดป้ายมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2536 ค่ะ ㋛


ปัจจุบัน อ.ณรงค์ สุปินะเจริญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เป็นประธานมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมค่ะ

ในการมอบทุนการศึกษา ของมูลนิธิฯ ในปีนี้ ก็ครบ 21 ปี ในการก่อตั้งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมด้วยค่ะ

และนับตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิฯ เป็นต้นมา ก็มีนักเรียนทุนผงมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เกือบหนึ่งร้อยคนแล้วล่ะค่ะ ㋛

เอาละค่ะ ก็ได้ทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ พิธีมอบทุนการศึกษา ของมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เรียบร้อยแล้วนะคะ ได้บุญมาเยอะเลยล่ะค่ะ… เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งนะคะ ไหนๆ ก็มาเที่ยวแถวนี้ละ เดี๋ยวก่อนกลับ เอมี่จะแวะเที่ยวที่พะเยา และเชียงรายกันก่อน แล้วผงพิเศษจะมีโครงการทำดีที่ไหนอีก ยังไงเพื่อนๆ คอยติดตามชมกันนะคะ
Lots of ⓁⓄⓋⒺ
:¨·.·¨:
`·.. Emmy
ทำดีกับผงพิเศษที่บ้านร่องคำ ปี 2536
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ก็จะมานำเสนอคลิปวีดีโอเก่าของผงพิเศษนะครับ เป็นคลิปพิธีรับมอบและเปิดป้ายสถานีอนามัย “ผงพิเศษตราร่มชูชีพ” บ้านร่องคำ ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2536 โดย ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยาครับ

คลิปนี้ได้มาจากม้วนวีดีโอ ซึ่งทางผงพิเศษเก็บรักษาไว้อย่าดีเลยครับ ได้นำมาแปลงเป็นซีดีเพื่อลงยูทูป แต่เมื่อลองเปิดดู ก็พบว่าสมัยนั้นถ่ายทำไว้ค่อนข้างยาวครับ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า จึงต้องมาตัดต่อเหลือประมาณ 10 นาที แต่เสียง Sound Tract ทุกอย่างเป็นของเดิมครับ

สำหรับความเป็นมา ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ คือในสมัยก่อนคนในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำ เวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ก็จะต้องไปหาหมอที่สถานีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น หรือไม่ก็ต้องไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ ประจำจังหวัด ซึ่งการเดินทางไปแต่ละครั้งก็ลำบากมาก ถนนหนทางก็เป็นดินลูกรัง กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานมาก
จนในปี พ.ศ. 2533 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานกรรมการบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยา มีโอกาสได้พบกับ พระครูวรกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดนาคปรก เจ้าคณะแขวงปากคลองภาษีเจริญ กรุงเทพ ซึ่งบ้านเกิดของท่านพระครูฯ อยู่ที่บ้านร่องคำ ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยท่านพระครูฯ ได้เล่าถึงความลำบากของคนในหมู่บ้านท่านว่าเวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ต้องเดินทางไปรักษาที่สถานีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น ต้องเดินทางไปไกล และบางครั้งรักษาได้ไม่ทันท่วงที
ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ จึงเกิดศรัทธาต่อความคิดของท่านพระครูฯ จึงได้บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างจำนวน 900,000 บาท อีกทั้งผู้มีจิตศรัทธาจำนวนหนึ่งบริจาคเพิ่มอีก 200,000 บาท รวมเป็น 1,100,000 บาท เพื่อก่อสร้าง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำขึ้น เพื่อให้คนที่อาศัยในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำ ได้มารับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ซึ่ง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2534 และได้เปิดทำการเมื่อ วันที่ 2 มกราคม 2535 ครับ

ส่วนรายละเอียด ” สูจิบัติ ” พิธีรับมอบและเปิดป้ายสถานีอนามัยผงพิเศษฯ ที่แจกในวันงาน เมื่อปี 2536 สามารถ download ได้จากนี่เลยนะครับ


ซึ่งทางผงพิเศษก็ได้มีโอกาสไปร่วมพิธีครั้งแรก เมื่อปี 2536 (คลิปวีดีโอด้านบนนะครับ) และ ครั้งที่ 2 เมื่อสถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้ถูกยกระดับเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาค่ะ ตามคลิปวีดีโอทั้ง 3 ตอน นี่เลยครับ
ต้องขอขอบพระคุณท่าน ผอ. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยนะครับ ที่ได้จัดพิธีเปิดทั้ง 2 ครั้ง ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และประทับใจมากๆ เลยครับ และทางผงพิเศษก็ยินดีที่จะส่งเสริม สนับสนุน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ ในทุกๆ ด้านตลอดไป อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทุกคนในบ้านร่องคำ ได้มีสุขอนามัยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ….㋡
Pspd ᕙ༼◕_◕༽ᕤ
ทำดีกับผงพิเศษที่บ้านร่องคำ EP.3
ได้ทำดี ได้บุญมาเยอะเลยล่ะค่ะ “ทำดีกับผงพิเศษที่บ้านร่องคำ” ก็เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งนะคะ ที่ช่วยให้คนในหมู่บ้านร่องคำ จ. ร้อยเอ็ด ได้มีที่รักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วยไม่สบายค่ะ ไหนๆ ก็มาเที่ยวแถวนี้ละ ก่อนกลับ ทับทิมจะแวะเที่ยวที่ขอนแก่น ยังไงเพื่อนๆ ไปเที่ยวพร้อมๆ กันกับทับทิมเลยนะคะ
มาถึงแล้ว… นี่เลย… พระธาตุหนองแวง หรือพระมหาธาตุแก่นนครค่ะ

พระธาตุหนองแวง อยู่ในวัดหนองแวง ถ.กลางเมือง อ.เมือง จ. ขอนแก่นค่ะ เป็นพระมหาธาตุขนาดใหญ่สูง 9 ชั้น รูปทรงสวยงาม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีบันไดเดินขึ้นได้สะดวกจนถึงชั้นที่ 9 เลยล่ะค่ะ


สำหรับประวัติของพระธาตุหนองแวงนี้นะคะ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 (องค์ปัจจุบัน) ได้ร่วมกับประชาชนสร้างขึ้นในโอกาสที่จังหวัดขอนแก่นมีอายุครบ 200 ปี เมื่อ พ.ศ. 2540 ค่ะ เพื่อเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 (วาสน์ มหาเถร) วัดราชบพิตร เมื่อปี พ.ศ. 2522 และอีกส่วนได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 โดยพระราชปริยัติเมธี (คูณ ขนุติโถ ปธ. 4) เจ้าอาวาส เป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง ได้เริ่มสร้างเมื่อ 7 ต.ค. 2533 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2540 ค่ะ

สิ่งน่าสนใจของพระธาตุหนองแวงนี้ก็คือ ตัวองค์พระมหาธาตุมีสีทอง รูปทรงชาวอีสานตากแหค่ะ คือมีฐานสี่เหลื่ยมขนาด 50 คูณ 50 เมตร และเรียวสอบขึ้นไป ความสูงถึงยอดฉัตร 80 เมตร ตัวเรือนยอดเป็นทรงดอกบังตูม เหนือชั้นที่ 9 ขึ้นไปมีกำแพงแก้วพญานาคเจ็ดเศียรล้อมรอบ และมีจุลธาตุเป็นห้องสี่เหลี่ยมมีหลังคารูปทรงเดียวกับองค์พระมหาธาตุอยู่ทั้งสี่มุมค่ะ

ชั้นล่างของพระมหาธาตุเป็นห้องโถงใหญ่ ประดิษฐานพระประธาน และบุษบกพระบรมสารีริกธาตุ ฝาผนังทั้งสี่ด้านเป็นภาพประวัติเมืองขอนแก่น ฝีมืออาจารย์ธรรมรงค์ แก้วโบราณ และคณะ ลายประดับที่เสาและเพดาน และบานประตูหน้าต่าง ฝีมือนายช่างศิลากร ทับทิมไสย และคณะ

บริเวณที่ชั้น 5 ขององค์พระมหาธาตุ เป็นหอพิพิธภัณฑ์ แสดงเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ พระครูปลัดบุษบา สุมโน อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 6 (พ.ศ. 2452 -2498)

ชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม รวบรวมคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา

และชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ บรรจุพระบรมพระสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 ในพระอบเล็ก และที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 (องค์ปัจจุบัน) ในพระอบใหญ่ ประดิษฐานไว้กลางบุษบก

ที่ระเบียงชั้นที่ 9 เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองขอนแก่นได้อย่างกว้างไกลเลยล่ะค่ะ

จากพระธาตุหนองแวง ก็นั่งรถออกมาแป๊ปนึง ก็ถึงบึงแก่นนครแล้วค่ะ แวะเดินเล่นหน่อยนะคะ….

บึงแก่นนคร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเทศบาลนครขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่นค่ะ เป็นศูนย์กลางของเมืองขอนแก่น ที่ชาวเมืองนิยมใช้เป็นที่พบปะ พักผ่อนออกกำลังกายกัน ทั้งช่วงเช้า กลางวัน เย็น จนถึงดึกดื่นเลยนะคะ รอบๆ มีสวนสาธารณ และร้านอาหารอยู่รายรอบด้วยค่ะ

ประวัติของบึงแก่นนครนะคะ จะมีชื่อเดิมว่าบึงบอนค่ะ เป็นชื่อเดิมเมื่อครั้งตั้งเมืองขอนแก่นขึ้นที่ริมบึงนี้ ราว พ.ศ. 2340 มีเพื้ยเมืองแพน หรือพระนครศรีบุรีรักษ์เป็นเจ้าเมือง ในอดีตที่ว่าการเมืองหรือศาลากลางจังหวัดตั้งอยู่ใกล้บึง จนเมื่อ พ.ศ. 2507 สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ย้ายศาลากลางจังหวัดไปตั้งยังบริเวณศูนย์ราชการจนปัจจุบันค่ะ

บึงแก่นนครเป็นทะเลสาปธรรมชาติขนาดใหญ่ เนี้อที่ 600 ไร่ รูปวงรี มีถนนรอบบึงอยู่ชั้นนอก ทางเท้าและที่พักผ่อนอยู่ริมบึงด้านใน ชาวเมืองมาออกกำลังกาย และพักผ่อนในสวนสาธารณบริเวณนี้ ด้านเหนือของบึงมีเรือถีบให้เช่าด้วยค่ะ

บรรยากาศที่บึงแก่นนคร คึกคักตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ริมบึงด้านทิศตะวันออกเป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองขอนแก่นยามพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ช่วงกลางคืนริมบึงด้านเหนือเป็นแหล่งร้านอาหารหลากหลายรูปแบบเลยนะคะ…

ยาหม่องตราร่มชูชีพ…. หอมจิงจิง ^^

ไปเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว… ตอนนี้… เดี๋ยวทับทิมจะพาไปซื้อผงพิเศษกันนะคะ ผงพิเศษหาซื้อง่ายค่ะ มีขายตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ ทับทิมจะพาไปซื้อผงพิเศษที่ร้านทิเซงฟาร์มาซี ที่ถนนศรีจันทร์ กันนะคะ…

คุณลุงคะ…. ขอซื้อผงพิเศษ 2 ซองค่ะ….

เฮ้…ได้ผงพิเศษมาแล้ว… เห็นไม๊ล่ะค่ะ…. ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็หน้าใส ไร้สิวอย่างง่ายๆ ค่ะ….

ซองละ 10 บาทเอง ไม่แพงด้วย แค่ 10 บาท สิวก็ยุบแล้ว!!!!


เฮ้อ… เดินมาทั้งวัน หิวกันหรือยังคะ… ไปทานอาหารเย็นที่ร้านประไพร สนามบินกันเถอะค่ะ ร้านนี้อร่อยจริงๆ ค่ะ

สุดท้ายก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามโครงการทำดีกับผงพิเศษที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ จ. ร้อยเอ็ด และที่ จ.ขอนแก่นมากนะคะ ได้บุญกันไปครบถ้วนทุกคนเลย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง!!! ยังไงคอยติดตามโครงการทำดีกับผงพิเศษได้อีกนะคะ คอยชมกันค่ะ สำหรับวันนี้บายบายนะคะ…..♥♥♥
Hope you enjoy this trip as I do!!! Bye!!!
TuB TiM
ทำดีกับผงพิเศษที่บ้านร่องคำ EP.2
หลังจากทับทิมได้ร่วมพิธีเปิดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ แล้วนะคะ ทับทิมก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับท่าน ผอ. วุฒิไกร จุลวงษ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ พี่แพรชมพู สุขณะล้ำ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ (เวชปฏิบัติ) และพี่อรุณรัตน์ โทวรรณา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ค่ะ

ท่าน ผอ. และพี่ๆ พยาบาล ก็ได้เล่าให้ทับทิมฟังว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนี้ แตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วไป ตรงที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จะเน้นการบริการเชิงรุกในพื้นที่ คือส่งเสริมให้ประชาชนมีการสร้างเสริมสุขภาพ จะเน้นการสร้าง นำ ซ่อม คือมีการบริการที่ครอบคลุม ทั้งรักษา ฟื้นฟู ป้องกัน และควบคุมโรคค่ะ

ในด้านการแพทย์ จะมีบริการด้านการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ การติดตามตรวจเยี่ยมผู้ป่วยตามชุมชน บริการฉุกเฉิน อุบัติเหตุต่างๆ ทำแผล ฝากครรภ์ วางแผนครอบครัว ฉีดวัคซีนเด็ก และที่นี่ยังมีเวรประจำ 24 ชม. ด้วยค่ะ ส่วนในวันนี้…. เป็นเวรของท่าน ผอ. เองเลยนะคะ ^^

อันนี้เป็นบรรยากาศภายในโรงพยาบาลนะคะ

สะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบมากๆ เลยค่ะ

เตียงนอนผู้ป่วยค่ะ… ไว้ป่วยแล้วจะมานอนนะคะ ^^

นอกจากจะมีการให้บริการด้านการรักษาพยาบาลทั่วไปแล้ว ก็ยังมีบริการแพทย์แผนไทยด้วยนะคะ บริการแพทย์แผนไทยเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รณรงค์ให้ หน่วยแพทย์ของทางราชการใช้เป็นทางเลือกทางหนึ่ง เพื่อรักษาภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยไม่ให้สูญหายไปค่ะ เป็นการฟื้นฟูวิชาแพทย์แผนไทยที่มีประโยชน์ ซึ่งจะเป็นการลดรายจ่ายของทางราชการ คือไม่ต้องสั่งยาจากต่างประเทศ และเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้ประชาชนเลือกใช้ในการรักษาด้วยค่ะ ส่วนตึกการแพทย์แผนไทย นี่เลยค่ะ….. ร่มรื่นมากๆ เลยนะคะ

อันนี้ห้องนวดค่ะ

ส่วนอันนี้… ทับทิมอยู่ในห้องอบสมุนไพร^^

ก็ต้องขอขอบคุณท่าน ผอ. และพี่ๆ พยาบาลมากนะคะ ที่ได้อธิบายถึงบริการต่างๆ ของโรงพยาบาล อีกทั้งยังพาทับทิมเยี่ยมชมสถานที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผงพิเศษ จนทั่วเลยล่ะค่ะ ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ㋡

แล้วพบกับทับทิมได้ใหม่ในคลิปทำดีกับผงพิเศษในคลิปถัดไปค่ะ ^^
ⓁⓄⓋⒺ ♥♥
TuB TiM
ทำดีกับผงพิเศษที่บ้านร่องคำ EP.1
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้ทับทิมมาร่วม โครงการทำดีกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ นะคะ และตอนนี้ทับทิมก็อยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ ค่ะ

สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ นี้นะคะ ตั้งอยู่ที่บ้านร่องคำ หมู่ที่ 3 ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด มีเนื้อที่ทั้งหมด 3 ไร่ 2 งาน 22 ตารางวาค่ะ

ความเป็นมาของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ เนี่ยนะคะ คือในสมัยก่อนคนในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำ เวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ก็จะต้องไปหาหมอที่สถานนีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น หรือไม่ก็ต้องไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ ประจำจังหวัด ซึ่งการเดินทางไปแต่ละครั้งก็ลำบากมาก ถนนหนทางก็เป็นดินลูกรัง กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานมาก
จนในปี พ.ศ. 2533 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานกรรมการบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยา มีโอกาสได้พบกับ พระครูวรกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดนาคปรก เจ้าคณะแขวงปากคลองภาษีเจริญ กรุงเทพ ซึ่งบ้านเกิดของท่านพระครูฯ อยู่ที่บ้านร่องคำ ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยท่านพระครูฯ ได้เล่าถึงความลำบากของคนในหมู่บ้านท่านว่าเวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ต้องเดินทางไปรักษาที่สถานนีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น ต้องเดินทางไปไกล และบางครั้งรักษาได้ไม่ทันท่วงที

ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ จึงเกิดศรัทธาต่อความคิดของท่านพระครูฯ จึงได้บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างจำนวน 900,000 บาท อีกทั้งผู้มีจิตศรัทธาจำนวนหนึ่งบริจาคเพิ่มอีก 200,000 บาท รวมเป็น 1,100,000 บาท เพื่อก่อสร้าง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ขึ้น เพื่อให้คนที่อาศัยในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำ ได้มารับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ซึ่ง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2534 และได้เปิดทำการเมื่อ วันที่ 2 มกราคม 2535 ค่ะ

และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมานี้นะคะ สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้ถูกยกระดับเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ ตามนโยบายของทางรัฐบาล ซึ่งได้ทำพิธีเปิดป้ายใหม่ ในวันที่ 18 ส.ค. 2554 ที่ผ่านมาค่ะ

ปัจจุบันมี ผอ.วุฒิไกร จุลวงษ์ เป็น ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำค่ะ

ก็เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งของผงพิเศษตราร่มชูชีพนะคะ ที่ได้ช่วยเหลือทุกคนที่บ้านร่องคำ ให้มีที่รักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วยไม่สบาย ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ ^^

หวังว่าเพื่อนๆ คงจะชอบกิจกรรมทำดีกับผงพิเศษกับทับทิมในครั้งที่ที่บ้านร่องคำนะคะ แล้วพบกันใหม่ในคลิปต่อไปค่ะ
ทับทิม ʚ♡⃛ɞ
มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม
ความเป็นมา
คุณสมเกียรติ ศุภโกวิท มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนเก่ง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนเล่าเรียนของโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อโรงเรียนเชียงคำวิทยาขึ้น ซึ่งมูลนิธิฯ นี้ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิและมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามเลขทะเบียนลำดับที่ 5047 เมื่อปี 2534 และมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

ผลงาน
ให้ทุนการศึกษา และอุปกรณ์การเรียนการสอนแก่นักเรียนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม จังหวัดพะเยา อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

PSPD (⌒▽⌒)☆
มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร
ความเป็นมา
ในปี 2531 คุณสมเกียรติ ศุภโกวิท ได้ไปทำบุญที่วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม และมีโอกาสสนทนาธรรมกับพระครูเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร (ปัจจุบันรับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชเจติยาภิบาล) ท่านพระครูปรารภถึงความตั้งใจของท่านให้ทราบว่า ท่านปรารถนาอยากให้พระสงฆ์ไทยทั่วทั้งประเทศ ได้ศึกษาภาษาบาลี เพื่อให้รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และจะได้ช่วยกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าและมีความมั่นคงสถาพรยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ประเทศชาติ ตลอดทั้งมวลมนุษย์โลกให้ได้บรรลุถึงความสุขสงบ สามัคคีกลมเกลียวกันตลอดไป จึงได้พยายามส่งเสริมและสนับสนุนให้พระ เณร ในวัดนี้ได้เข้าเรียนศึกษาภาษาบาลีกันให้มากที่สุด ที่โรงเรียนสหศึกษาบาลีองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งก็นับว่าได้ผลดีเพราะในปีหนึ่งๆ พระ เณร ของวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร สามารถสอบได้เปรียญธรรมประโยคต่างๆ เป็นจำนวนมากทุกปี และในขณะนี้ยังมีพระ เณรอีกจำนวนมากต้องการศึกษาต่อ แต่ไม่สามารถจะกระทำได้เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความปรารถนาและความตั้งใจของพระ เณรอย่างยิ่ง
เมื่อคุณสมเกียรติฯ ได้รับทราบเรื่องนี้จึงเกิดความศรัทธาที่จะบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อให้เป็นทุนตั้งมูลนิธิ มีชื่อว่ามูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร มีจุดประสงค์ให้เจ้าอาวาสนำปัจจัยนี้ ไปใช้จ่ายในการส่งเสริมการศึกษาบาลีของพระ เณร ในวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหารสืบไป
มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหารนี้ ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิและมีฐานะเป็นนิติบุคคล ตามเลขทะเบียนลำดับที่ 4213 ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2533 มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ หอสวดมนต์ของวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร ตำบลพระประโทณ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

ผลงาน
(1) ให้ทุนการศึกษาภาษาบาลีแก่พระ เณรของวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
(2) ช่วยเหลือค่าพยาบาลแก่พระ เณร ของวัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อแม่โจ้
ความเป็นมา
คุณสมเกียรติ ศุภโกวิท ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ รุ่นที่ 1 (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่) มีความประสงค์ที่จะสนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของมหาวิทยาลัยฯ รวมถึงช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อแม่โจ้ขึ้น ซึ่งมูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อแม่โจ้นี้ ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิ และมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามเลขทะเบียนลำดับที่ 4346 ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2533

ผลงาน
(1) มูลนิธิผงพิเศษตราร่มชูชีพ เพื่อแม่โจ้ ร่วมเป็นแรงสำคัญในการจัดสร้างอนุสาวรีย์ พระช่วงเกษตรศิลปการ บิดาเกษตรแม่โจ้ ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2533
(2) ให้ทุนการศึกษา แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ⓁⓄⓋⒺ
PSPD
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ
ตั้งอยู่ที่บ้านร่องคำ หมู่ที่ 3 ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด มีเนื้อที่ทั้งหมด 3 ไร่ 2 งาน 22 ตารางวา
ความเป็นมาของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ คือในสมัยก่อนคนในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำเวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย จะต้องไปหาหมอที่สถานนีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น หรือไม่ก็ต้องไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ ประจำจังหวัด ซึ่งการเดินทางไปแต่ละครั้งก็ลำบากมาก ถนนหนทางก็เป็นดินลูกรัง กว่าจะไปถึงใช้เวลานานมาก
จนในปี พ.ศ. 2533 ดร.สมเกียรติ ศุภโกวิท ประธานกรรมการบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ภรรยา มีโอกาสได้พบกับ พระครูวรกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดนาคปรก เจ้าคณะแขวงปากคลองภาษีเจริญ กรุงเทพ ซึ่งบ้านเกิดของท่านพระครูฯ อยู่ที่บ้านร่องคำ ตำบลป่าสังข์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด โดยท่านพระครูฯ ได้เล่าถึงความลำบากของคนในหมู่บ้านท่านว่าเวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย ต้องเดินทางไปรักษาที่สถานนีอนามัยที่หมู่บ้านอื่น ต้องเดินทางไปไกล และบางครั้งรักษาได้ไม่ทันท่วงที
ดร.สมเกียรติฯ และคุณสมจิตต์ จึงเกิดศรัทธาต่อความคิดของท่านพระครูฯ จึงได้บริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างจำนวน 900,000 บาท อีกทั้งผู้มีจิตศรัทธาจำนวนหนึ่งบริจาคเพิ่มอีก 200,000 บาท รวมเป็น 1,100,000 บาท เพื่อก่อสร้าง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ขึ้น เพื่อให้คนที่อาศัยในหมู่บ้าน ที่บ้านร่องคำ ได้มารับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ซึ่ง สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2534 และได้เปิดทำการเมื่อ วันที่ 2 มกราคม 2535 ครับ

และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมานี้นะครับ สถานีอนามัยผงพิเศษตราร่มชูชีพบ้านร่องคำ ได้ถูกยกระดับเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผงพิเศษตราร่มชูชีพ) บ้านร่องคำ ตามนโยบายของทางรัฐบาล ซึ่งได้ทำพิธีเปิดป้ายใหม่ ในวันที่ 18 ส.ค. 2554 ที่ผ่านมาครับ

PSPD ᕙ(⇀‸↼‶)ᕗ